您现在的位置是:DailyThai > จุดสนใจ
【adn168】หมดหนทาง!! เอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่ม น่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิม | เดลินิวส์
DailyThai2025-02-12 01:18:16【จุดสนใจ】9人已围观
简介น.ส.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการแทนผู้อำนวยการสำ adn168
น.ส.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานการณ์ด้านหนี้สินกิจการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไตรมาส 4 ปี 67 ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มธุรกิจรายย่อย และรายกลาง พึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบสถาบันการเงินเพิ่มมากขึ้น โดยธุรกิจรายย่อยหันไปพึ่งพาแหล่งเงินจากนายทุนเงินกู้เพิ่มมากขึ้น จาก 1.3% เป็น 7.4%
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2025/02/S__47472644-1280x856.jpg)
ส่วน ธุรกิจขนาดกลาง มีการกู้ยืมเงินทุนจากเพื่อน ญาติพี่น้องเพิ่มขึ้น จาก 16.2% เป็น 18.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ธุรกิจขนาดย่อมพึ่งพาแหล่งกู้เงินในระบบสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด เพิ่มมากขึ้น จาก 56.1% เป็น 69.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์“เอสเอ็มอี มีภาระหนี้สินมีสัดส่วนใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ 65% จาก 65.3% เมื่อพิจารณาตามขนาดธุรกิจ พบว่า ธุรกิจขนาดกลางและธุรกิจรายย่อย มีสัดส่วนภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็น 97.1% และ 61.3% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนธุรกิจขนาดย่อมมีภาระหนี้สินลดลงมาอยู่ที่ 71.5%”
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์สำหรับวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปใช้เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า พบว่า เอสเอ็มอี นำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการลดลงจาก 91.9% เป็น 82% เนื่องจากเอสเอ็มอี เริ่มมีการนำเงินไปชำระหนี้สินเดิมเพิ่มมากขึ้นจาก 3% เป็น 9.7% และนำเงินไปลงทุนในกิจการเพิ่มขึ้นจาก 5.1% เป็น 8.3% เพื่อขยายกิจการและซ่อมแซมสถานประกอบการ
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์จากผลสำรวจระบุว่า SME เผชิญปัญหาการชำระหนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 2563 จากต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น และเผชิญปัญหาต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านกำลังซื้อต่ำ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงผลกระทบจากการแข่งขันของคู่แข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถขายสินค้า/บริการได้ จึงส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ อีกทั้งการเข้าถึงวงเงินสินเชื่อจากแหล่งเงินต่าง ๆ ยังไม่เพียงพอ รวมถึงระยะเวลาสัญญาสินเชื่อที่สั้นเกินไป เกณฑ์การเข้าถึงสินเชื่อที่เข้มงวดมากตลอดช่วงหลังการฟื้นตัวจากโควิด ขั้นตอนการกู้ยืมเงินที่ยุ่งยาก และการขาดความรู้หรือที่ปรึกษาทางการเงิน จึงกลายเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ SME มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์พบว่า SME ที่ไม่มีภาระหนี้สิน ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง เริ่มมีความต้องการกู้ยืมเงินในอนาคตเพิ่มมากขึ้น จากร้อยละ 17.6 เป็นร้อยละ 24.6 และจากร้อยละ 22.2 เป็นร้อยละ 25.0 ตามลำดับ เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หมุนเวียนในกิจการ และ SME มองว่าปัจจัยด้านกำลังซื้อต่ำที่ทำให้ปริมาณคำสั่งซื้อลดลง คู่แข่งทางธุรกิจมีจำนวนเพิ่มขึ้น และสภาพคล่องที่ลดลง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านการเงินของธุรกิจ เมื่อต้องการแหล่งเงินทุนหรือยื่นกู้สินเชื่อยังเจอกับปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อ เช่น เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด รวมถึงธุรกิจที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินความสามารถในการชำระเงินคืนอีกด้วย
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์แม้ว่าสถานการณ์ภาวะหนี้สินของ SME ในไตรมาสที่ 4 เริ่มมีทิศทางทรงตัว SME ต้องการนำเงินกู้ที่ได้รับไปชำระหนี้สินเดิมเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยอื่น ๆ ภายในประเทศ เช่น กำลังซื้อต่ำ ราคาสินค้า บริการที่อยู่ในระดับสูง พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขายสินค้า บริการได้นั้น ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือกระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้ เพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในการเพิ่มการใช้จ่ายหรือกำลังซื้อ รวมถึงมาตรการด้านสินเชื่อ เช่น การเพิ่มความยืดหยุ่นของหลักเกณฑ์ในการยื่นขอสินเชื่อให้ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกสาขาธุรกิจ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการไปพึ่งพาแหล่งกู้ยืมเงินที่ไม่เหมาะสมหรือผิดประเภทเพิ่มขึ้น
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์很赞哦!(51744)
相关文章
- Flow เหมียวมีกัน วันน้ำท่วมโลก | เดลินิวส์
- โพลชี้ 'นายกฯอิ๊งค์' คะแนนพุ่ง แก้ปัญหาเร็ว | เดลินิวส์
- 'เกรซ กาญจน์เกล้า'เคลียร์ดราม่าเรียนหมอ-ชีวิตเปลี่ยนหลังเจอเนื้องอกในลำไส้! | เดลินิวส์
- สังคมโลก : นักล่าเห็ด | เดลินิวส์
- "มอส-แบงค์"บุกตลาดลาตินอเมริกาทั้ง"Fan Meeting-Fan Sign-Showcase"ที่บราซิล | เดลินิวส์
- 'บุ๋ม ปนัดดา' เจอเกรียนคีย์บอร์ดแซะ 'หากินกับศพ' เตือนถ้าไม่หยุดขอจบที่ศาล! | เดลินิวส์
- ฟังแล้วช็อก! 'นัท มีเรีย' แจงชัดปมถูกคนถามท้องมั้ย ลั่นไม่ได้ท้องแต่เพราะเป็นเนื้องอก | เดลินิวส์
- Johnny Depp ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองที่วงการฮอลลีวูดเคยต่อต้านเขา
- "เซียงเซียง-คุกกี้-สาลี่-พาย" นักแสดงช่องวัน31 คว้าปริญญาจากรั้วธรรมศาสตร์ | เดลินิวส์
- "หม่าฮาวตง – เส้าอวิ๋น"จับมือสาดความสนุกใน "My Bossy Sweet Wife"ทำแฟนแฮปปี้มาก | เดลินิวส์
热门文章
- จับตา! 14 ก.พ."พิรงรอง"เข้าร่วมประชุมบอร์ด กสทช.หรือไม่? หลังประกันตัวสู้คดีชั้นอุทธรณ์ | เดลินิวส์
- 'ใบเฟิร์น'จัดเต็มลุคผีเจ้าสาวรับฮาโลวีน เอฟซีกรี๊ดลั่นสวยขนาดนี้พร้อมโดนหลอก! | เดลินิวส์
- มินฮีจิน เผยว่าได้รับกำลังใจจาก V วง BTS ในช่วงที่ยากลำบากเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา
- 'ก้อย' รับห่วงเพื่อน เตือน 'นิกกี้' มีสติ เชื่อจะผ่านไปได้ วอนอย่าจับโยง เราจบด้วยดี! | เดลินิวส์
站长推荐
ส่องคอมเมนต์ 'ทับทิม' หลังเปิดตัวคบ 'ไทด์ เอกพันธ์' ลั่น ไม่อยากเชื่อถ้าจริงก็ยินดี! | เดลินิวส์
'พระพยอม' เตือนสงฆ์ทำพิธีไล่ผีปอบ ล้ำเส้นความเป็นพระ ไม่สมศักดิ์ศรี! | เดลินิวส์
'สรวงศ์' เตรียม ตั้งคณะกรรมการเอาคืน 'ปิยะ' หลังปูด เพื่อไทยเอี่ยวปม ดิไอคอน | เดลินิวส์
"เลดี้ปราง"ปังหนักดัน"ไม่เคยได้เห็นตัวเองที่ยิ้มได้มากแบบนี้(Glad)"เพลงที่เขียนจากความรักครั้งปัจจุบัน | เดลินิวส์
อุ๊ต๊ะ! ใครอีกอดีต “นางร้าย”ยืมเงินนักธุรกิจสาวสวยกว่า62ล้าน ไม่ยอมคืน เพจดังแฉฮึ่ม | เดลินิวส์
"นิวนิว เอวเด้ง"อวดความปังนอนชิลๆ ความแซ่บโผล่ทักทายจนหลายคนต้องกดไลก์ | เดลินิวส์
'แบมแบม'ร่วมประมูลไอเทมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ระดมทุนช่วยเหลือเด็กหลุดจากระบบการศึกษา | เดลินิวส์
"เมรี คำภีร์"เดือดเจอทักถามหาถึงอดีตสามี หันไปสาปส่งแบบไม่สนหน้าใครทั้งนั้น! | เดลินิวส์