【สปอร์ต พูลทีเด็ด】'เพื่อไทย' ชี้เป้า 'ธนาธร-พิธา' ช่วยหาเสียง | เดลินิวส์

ต้องยอมรับเรื่องอะไรที่เชื่อมโยงกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มักจะกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ไม่กี่วันที่ผ่านมาอดีตนายกฯก็ตอบคำถามนักข่าว หลังมีคนไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ(รธน. ) ตรวจสอบ กรณี 6 พรรคร่วมรัฐบาลเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง โดยระบุว่า ไม่มีอะไรเลย คืนที่พรรคร่วมเข้าไปบ้านจันทร์ส่องหล้านั้น ไปกินมาม่า มาม่าอร่อย นำมาสู่เสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้การเดินทางไปช่วยหาเสียงการเลือกนายกองค์การบริหารจังหวัด(อบจ.)อุดรธานี ในวันที่ในวันที่ 13-14 พ.ย. โดยพรรคพท.สนับสนุน นายศราวุธ เพชรพนมพร โดยมีคู่แข่งสำคัญเป็นตัวแทนพรรคประชาชน(ปชน.) ส่ง นายคณิศร คุริรัง โดยเฉพาะผู้มากบารมีของทั้งสองพรรค นายทักษิณ และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล(ก.ก. ) วางกำหนดการในการลงพื้นที่ ซึ่งพอปรากฏเป็นข่าวอดีตนายกฯ จะลงพื้นที่ ก็มีข่าวจะมีคนนำไปร้องให้องค์กรอิสระตรวจสอบ ในประเด็นอดีตนายกฯ เข้าไปครอบงำพรรคพท. ซึ่งอาจผิดรธน. เพราะถือเป็นคนนอก

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

ขณะที่แกนนำพรรคพท.ก็ออกมาตอบโต้ โดยชี้เป้าไปที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค. ) และ นายพิธา ลิ้มเจริญ อดีตหัวหน้าพรรคก.ก. ซึ่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ก็ยังมีบทบาทช่วยผู้สมัครจากพรรคปชน. หาเสียง โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ในฐานะแกนนำพรรคพท. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงการเลือกตั้งนายกอบจ. ทั้งจ.อุดรธานี และที่จ.สุรินทร์ ว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกฝ่ายและทุกพรรคการเมือง ปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่อนุญาตให้ทำได้ นายทักษิณเป็นแค่ผู้ช่วยหาเสียง ทุกพรรคทำได้เหมือนกัน แม้แต่พรรคปชน.) ก็สามารถทำได้ เราก็ทำตามกฎหมาย

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

ด้าน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคพท.กล่าวตอบโต้กระแสการมุ่งโจมตี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง นายศราวุธ เพชรพนมพร เป็นนายกอบจ. อุดรธานี ว่า สถานะของ นายทักษิณ คือผู้ช่วยหาเสียงที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่สถานการเป็นผู้ช่วยหาเสียง ยังปรากฏทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนค. และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก.ก. ซึ่งล้วนถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง กลับยังเคลื่อนไหวสนับสนุน กลุ่มการเมืองของตนเองอยู่ทั้งสิ้น แต่ปรากฏว่ากลับมีกระแสจากบางฝ่าย มุ่งอคติปิดตาข้างเดียว เลือกข้างโจมตี โดยไม่ตั้งคำถามถึงการครอบงำ ของอดีตผู้นำพรรคทั้ง 2 คนต่อพรรคการเมืองในปัจจุบัน จึงไม่อาจมองข้ามไปได้ว่า ขบวนการส่งต่อข้อมูลข่าวสารเช่นนี้ ยิ่งทำให้สังคมแตกแยกและเข้าใจผิดในวงกว้าง

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

เลิกสร้างมาตรฐานผลักไสอดีตนายกฯ ทักษิณ อยู่เหนือกฎหมาย การเป็นผู้ช่วยหาเสียง ก็ไม่ต่างจากอดีตหัวหน้าอนค.และพรรคก.ก. จึงฝากถึงพวกนักปั่นที่ชอบบิดเบือนข่าวสาร มุ่งหวังแต่ผลทางการเมืองทั้งหลาย ยุยงคนในชาติแตกแยก ทั้งกรณีพื้นที่ทับซ้อนเอ็มโอยู44 ไทย-กัมพูชา หรือเชื่อมโยงอดีตนายกฯ ทักษิณ ครอบงำพรรคพท. ถามว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องเหล่านี้ น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

เมื่อมีการโยนเป้ากลับไปทั้ง นายธนาธร และ นายพิธา คงต้องรอแกนพรรคฝ่ายค้านจะชี้แจงอย่างไร หลังก่อนหน้าทั้ง พรรคพท.และพรรคปชน. ก็ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกัน ไม่เล่นบทโหดใส่กัน

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

ส่วนเรื่องเอ็มโอยู 2544 ก็ยกเป็นประเด็นร้อน โดยช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปที่เกาะกูดเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา จากนั้นในวันที่ 11 พ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ได้เดินทางไปที่เกาะกูด เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และ ให้ความมั่นใจกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ยืนยันเกาะกูดเป็นของประเทศไทย

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ กล่าวถึงการลงพื้นที่อ.เกาะกูด จ.ตราด เมื่อวันที่9 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ขอให้ทุกคนสบายใจได้ เพราะกองปฏิบัติการชายแดนบริเวณเกาะกูดมีความเข้มแข็ง ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนเกาะกูด ไม่ยอมเสียแผ่นดินแม้แต่ตารางนิ้วเดียว อีกทั้งกองทัพเรือ(ทร.)ยังปกป้องอธิปไตยบริเวณเกาะกูดได้อย่างไม่มีปัญหา นอกจากนี้ นายทหารของทั้ง 2 ประเทศ ที่ดูแลพื้นที่ชายแดน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และฝ่ายกัมพูชายอมรับ พื้นที่ตรงนี้เป็นของประเทศไทย เมื่อถามว่าการตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (เจทีซี) ฝ่ายไทย จะชัดเจนเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หลังจากนายกฯกลับมาจากต่างประเทศ โดยเปิดให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาเป็นกรรมการด้วย ทั้งนี้ขอให้ทุกฝ่ายได้ทำงาน อย่าไปพูดให้เป็นประเด็นโดยไม่มีมูลเหตุใด ๆ

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

เมื่อถามว่า การโต้แย้งในเรื่องเกาะกูดและเอ็มโอยูจะทำให้คณะกรรมการเจทีซีทำงานลำบากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ยืดเยื้อและไม่สะดุดแน่นอน เพราะในระบอบประชาธิปไตย แม้จะเป็นเสียงเดียวหรือสองเสียงก็สามารถแสดงออกได้ แต่ต้องดูเสียงส่วนใหญ่ และผลประโยชน์ของประเทศ อีกทั้งขออย่าให้คนเพียงไม่กี่คน หรือบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจ ทำให้เกิดประเด็นที่จะขัดกับปัญหาของประเทศ ที่ควรจะต้องแก้ไข ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวล่าสุดที่อ้างว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีการดีลลับกับสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีแห่งกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า ไม่มีดีลลับอะไรทั้งนั้น คนไม่มีบทบาท ไม่มีหน้าที่จะเข้าไปดีลลับได้อย่างไร

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

เช่นเดียวกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด เพื่อตรวจราชการและให้กำลังใจประชาชน โดยจุดแรกนายอนุทิน เดินทางมายังชุมชนบ้านคลองมาด ได้พบปะประชาชนโดยรอบ พร้อมพบกับนายสวงค์ รำไพ ชาวบ้านเกาะกูด ผู้อาวุโสอายุ 92 ปี ผู้ที่อาวุโสที่สุดบนเกาะกูด ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ก๋ง โดยนายอนุทิน ได้ขอบคุณ ก๋งสวงค์ ที่ชี้แจงแทนรัฐบาล กับสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 10 พ.ย.67ว่าเกาะกูดเป็นของไทยและก๋ง ยังขอให้นายอนุทิน ช่วยเรื่องที่ดินทำมาหากิน ที่ประชาชนบางส่วนยังไม่ได้สิทธิ์ เพื่อที่ประชาชนจะได้รักเกาะกูดมากขึ้น

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

นายอนุทิน กล่าวถึงเรื่องเกาะกูด ที่เกิดประเด็นการเมืองในขณะนี้ว่า ขอไม่ต้องกังวล รัฐบาลนี้ ขอให้ความมั่นใจ ไม่มีวันยอม ไม่ว่ารัฐบาลนี้หรือรัฐบาลไหน ไม่มีทางที่จะยอมเสียดินแดน อย่าว่าแต่เกาะทั้งเกาะเลย ตารางนิ้วเดียวก็เสียไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้หรอก เราอยากไปเสียเวลาคิดกับเรื่องที่ไม่มีวันเกิด แต่มาคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

เอ็มโอยู 44 ไม่ใช่สัญญาว่า คุณจะขุดออกไปกี่กิโลเมตรหรือจะขุดร่วมกันหรือไม่ ซึ่งยังไม่ถึงจุดนั้น เพียงแต่จะหาความเห็นร่วมกันก่อนว่า แต่ละพื้นที่แต่ละประเทศครอบครองเท่าไหร่ในทางทะเล ขอย้ำว่าไม่ใช่เรื่องของดินแดนไม่ใช่เรื่องของแผ่นดิน เกาะกูด จึงเป็นดินแดนของประเทศไทย เกาะกูดไม่มีอยู่ในเอ็มโอยู 44 และเมื่อเห็นตกลงเมื่อไหร่ตามเอ็มโอยู ก็จะมีการสร้างสนธิสัญญาพัฒนาร่วม ซึ่งส่วนนั้นยังอีกห่างไกลกว่าจะไปถึงจุดนั้น ซึ่งในรัฐธรรมนูญ(รธน.)ของประเทศไทย รธน.ของประเทศเพื่อนบ้านก็คงระบุไว้เช่นกัน ว่าก่อนที่จะไปทำสนธิสัญญากับใคร ต้องได้รับความเห็นจากรัฐสภาของแต่ละประเทศก่อน จึงมีขั้นตอนอีกมากกว่าจะถึงจุดนั้น แล้วหากถึงที่สุดแล้วตกลงกันไม่ได้เห็นไม่ตรงกัน ก็ยกเลิกกันไป ดังนั้น จึงไม่ต้องมานั่งบอกว่าจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิกเอ็มโอยู เพราะเอ็มโอยูบอกแค่ว่าให้มาคุยกัน นายอนุทิน กล่าว

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

นอกจาก ภายในชุมชนได้ประดับธงชาติไทย ในทุกบ้านเรือน ขณะที่นายอนุทินได้ ขึ้นสะพานข้ามคลองและนำธงชาติไทย 2 ผืนมาวางไว้เหนือศีรษะ จากนี้ไปต้องรอดูประเด็นเอ็มโอยู 2544 ยังจะกลายเป็นประเด็นร้อนที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับรัฐบาลหรือไม่ ยิ่งเป็นเรื่องดินแดนและเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประเทศชาติ

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

ส่วนอีกประเด็นที่ถูกจับตามองคือ กรณีที่กรมที่ดินมติไม่เพิกถอน ที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับตระกูลชิดชอบ โดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่กรมที่ดิน มีมติไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นข้อพิพาทกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ที่ดินตรงนั้นเป็นของรฟท. แม้กระทั่ง 1 ตารางวาก็เสียไปไม่ได้ จึงให้รฟท. ไปตรวจสอบดู ซึ่งรฟท.ไป ยื่นขอต่อศาลปกครองกลาง แจ้งเหตุว่า อธิบดีกรมที่ดิน ปฏิบัติตามคำพิพากษาไม่ครบถ้วน ตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาศาลปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 75/3 โดยขอให้ศาลปกครองพิจารณา หรือไต่สวน กำหนดวิธีการดำเนินการ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการร่วมกันชี้แนวเขตที่ดินของรฟท. จึงเห็นควรแถลงข้อเท็จจริงให้พิจารณาในประเด็นคำสั่งดังกล่าวต่อไป

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

นายสุริยะ กล่าวว่า ผู้ว่ารฟท. ได้ทำหนังสือยื่นไปยังกรมที่ดิน เพื่อคัดค้านหนังสือของอธิบดีกรมที่ดินตามมาตรา 44 แห่งพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ซึ่งในข้อกฎหมายระบุว่า ต้องยื่นภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย. จึงดำเนินการส่งไปเรียบร้อยแล้ว และอีกประเด็นคือ จะทำอย่างไรในการศึกษาข้อกฎหมาย โดยรฟท. จะไปหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อสามารถฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่เข้ามา 900 กว่าแปลงได้อย่างไร ซึ่งขั้นตอนนี้ยังมีเวลา เมื่อถามว่าขณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตการเอื้อผลประโยชน์ เพราะมีที่ดินหลายแปลงเป็นของตระกูล “ชิดชอบ” นายสุริยะ ระบุว่า ไม่อยากให้ขยายเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นทางการเมือง แต่อยากให้ว่า ไปตามกระบวนการ เมื่ออธิบดีกรมที่ดินชี้แจงมาแบบนี้ แต่รฟท. เห็นว่า ไม่ใช่ ก็ต้องรักษาสิทธิ์ของรฟท. ไว้

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ ผลสรุปกรม ที่ดินที่ดิน ในกรณีที่ที่ดินเขากระโดง ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีแทรกแซง ไม่มีความกดดัน นี่คือสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ หากจะเอาให้ ชัดเจน ต้องไปถามคนที่ทำเรื่องนี้ มีแรงกดดันอะไรลงไปหรือเปล่า ส่วนการลาออกของอธิบดีกรมที่ดิน มาเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าวนั้น เขาต้องการไปดูแลสุขภาพของภรรยา ส่วนที่สำนักข่าวมาตีข่าว ว่าอธิบดีทนไม่ไหว จนต้องลาออกนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ เป็นการเสนอข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริง คณะกรรมการที่ศึกษาเรื่องที่ดินเขากระโดงแต่งตั้งขึ้น ก่อนที่ตนจะเป็น รมว.มหาดไทย มาในเดือนก.พ. 66 แต่คำพิพากษามีมาตั้งแต่ปี 2560 -2561 ก่อนเข้ารับตำแหน่ง 6 ปี ไม่มีคำว่าช่วยเพื่อน มาอยู่ตรงนี้ช่วยไม่ได้ พื้นที่เขากระโดงมีพื้นที่ 5 พัน กว่าไร่ เท่าที่ทราบตระกูลชิดชอบ มีอยู่ 300 ไร่ แล้วอีก 4,700 ไร่ จะผิดแค่ 300 ไร่ได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้นก็ไปพิสูจน์เอา ไม่เกี่ยวกับ รมว.มหาดไทย ไม่ใช่อำนาจในการเพิกถอนหรืออนุญาต อยากจะยุ่งก็ยุ่งไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจ

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

ขณะที่ นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ผลสรุปกรม ที่ดินกรณีที่ดินเขากระโดง ว่า งกรมที่ดินทำ ทำอยู่สามส่วน โดยส่วนแรกทำตามคำสั่งศาลปกครอง ส่วนที่สองทำตามข้อกฎหมายไม่มีส่วนใดใช้เรื่องดุลยพินิจและส่วนที่สามทำไปตามข้อเท็จจริง ที่มีพยานหลักฐานและกฎหมายที่ชัดเจน ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ เมื่อถามต่อว่า ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยอยู่ในพรรคภท. จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการฟอกขาว อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวยืนยันว่า กระบวนการที่ดำเนินมาทำ ตั้งแต่ก่อนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย จะเข้ามา ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย เรื่องหลักฐานเรื่องการอ้างสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ หรือประชาชนต้องมีหลักฐานทางกฎหมาย ที่ยืนยันถึงการมีสิทธิ์ที่ดินนั้นๆ

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

ต้องรอดูว่าปัญหา ที่ดินเขากระโดง จะทำให้เกิดปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เมื่อกระทรวงคมนาคมอยู่ในความดูแลของ พรรคพท. รับผิดชอบหน่วยรฟท. และ กระทรวงมหาดไทยดูแล กรมที่ดิน อีกทั้ง โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับตระกูล ชิดชอบ ผู้มากบารมีในพรรคภท.

เพื่อไทยชี้เป้าธนาธรพิธาช่วยหาเสียงเดลินิวส์

很赞哦!（58）