您现在的位置是:DailyThai > เวลาว่าง

【ทางเข้าพุซซี่888 ไม่ต้อง โหลด】ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทย 2568 ปีมะเส็ง จับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้า | เดลินิวส์

DailyThai2025-01-03 05:19:13【เวลาว่าง】7人已围观

简介ผ่านพ้นไปแล้ว!!เศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอีกปีที่มีความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะปัจจัยในประเทศ สถานการณ์กา ทางเข้าพุซซี่888 ไม่ต้อง โหลด

ผ่านพ้นไปแล้ว!! เศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอีกปีที่มีความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะปัจจัยในประเทศ สถานการณ์การเมือง และปัจจัยนอกประเทศ อย่างการเลือกตั้งสหรัฐในช่วงส่งท้ายปี ทำให้เศรษฐกิจไทยยังคงเจอมรสุมลูกใหญ่ จนการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปี 67 ขยายตัวไม่ถึง 3% แม้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจะขยายตัวดีเกินคาด และช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีในไตรมาส 4 อาจจะขยายตัวได้เกือบ 4% จากนโยบายแจกเงินรัฐบาล เพื่อกระตุ้นการบริโภค

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

ท่ามกลางความท้าทายค่อนข้างมากทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลต่อเนื่องมายังในปี 68 ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยปี 68 อาจเติบโตไม่เป็นดังที่คาดไว้ได้ โดยระหว่างทางอาจเจอปัญหาใหม่ๆ และปัญหาเดิมที่ยังคงสะสางไม่ได้ ทั้งเรื่องสงครามการค้าสหรัฐกับจีน ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงที่ส่งผลให้คนไทยมีปัญหาด้านการเงิน การใช้จ่ายลดน้อยลง ไม่อาจบูทการบริโภคให้จุดติด ซึ่งต้องหวังพึ่งมาตรการภาครัฐ กระตุ้นการใช้จ่าย โดยเฉพาะการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท และมาตรการลดหย่อนภาษี (อีซี อี-รีซีท) ที่จะออกมาในช่วงต้นปี 68

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

*ส่องศก.ปีมะเส็ง

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์*

สำนักวิจัยเศรษฐกิจหลายแห่งได้มีมุมมองเกี่ยวกับ เศรษฐกิจไทย “ปีมะเส็ง” ไว้อย่างน่าสนใจ โดย “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจไทยปี 68 จะขยายตัว 2.4% ต่ำกว่าในปี 67 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุผลหลักๆ คือการกลับมาเดือดอีกครั้งของ สงครามการค้า หลังจากนโยบายทรัมป์ 2.0 มีมาตรการกีดกันการค้า จ่อขึ้นภาษีนำเข้าอีกครั้ง และยังมีปัจจัยในประเทศทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง และต้องลุ้นการปรับโครงสร้างภาษีของไทยว่าจะเก็บเพิ่มภาษีตัวไหนบ้าง โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีแวตที่ปัจจุบันเก็บอยู่ 7% ต่อปี

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือผลกระทบจากสงครามการค้า ที่อาจลามมาสู่ไทยไม่มากก็น้อย เพราะไทยติดเป็น 1 ใน 15 ประเทศที่สหรัฐจับตามอง ซึ่งจะมีผลกระทบการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โซลาร์เซลล์ ยางล้อรถยนต์ และหากสหรัฐกีดกันสินค้านำเข้าจากจีน อาจทำให้สินค้าจีนทะลักเข้ามายังประเทศไทยได้ จนกระทบกับภาคการผลิตของไทยไปมากกว่าเดิม เพราะต้องยอมรับว่าสินค้าไทยแข่งขันกับจีนค่อนข้างยาก

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

*ปัจจัยรุมเร้ารอบด้าน

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์*

ขณะที่ “สำนักวิจัยซีไอเอ็มบีไทย” เปิดความท้าทายเศรษฐกิจไทยปี 68 เปรียบได้กับงูที่ใส่เกียร์เดินหน้าเลื้อยคดบนถนนเศรษฐกิจ จากเศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนแปลงและซับซ้อนภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยวที่ในปี 68 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในไทย 39.1 ล้านคน แม้จะสูงกว่าในปี 67 ที่มีอยู่ 35.6 ล้านคน แต่ก็ยังต่ำกว่าในปีก่อนโควิดที่มีมากถึง 39.9 ล้านคน และที่สำคัญ นักท่องเที่ยวจีนยังไม่ถึงก่อนระดับโควิด

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

นอกจากนี้โครงการแจกเงินจากภาครัฐ เพื่อกระตุ้นการบริโภคของครัวเรือนและลดภาระค่าครองชีพ มีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชนในปี 68 และในปี 68 ยังมีความท้าทายการแข่งขันของผู้ประกอบการจีนที่ยังคงรุนแรงขึ้น โดยเศรษฐกิจไทย อาจเจอปัจจัยเหนี่ยวรั้งการเติบโต โดยเฉพาะกำลังซื้อของครัวเรือน จากรายได้ประชาชนอ่อนแอ การส่งออกฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่จากการค้าโลกที่กำลังปั่นป่วน

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

*แนะแนวทางรับมือ

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์*

ภายใต้ความปั่นป่วนของการค้าโลก กระทบต่อเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย ทำให้เป็นความท้าทายสำคัญ แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ โดย  สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ แนะแนวทางการรับมือความท้าทายตลอดปี 68 ซึ่งมีเรื่องสำคัญครอบคลุมทั้งปัจจัยจากต่างประเทศและในประเทศ

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

ในเรื่องแรก คือ การขับเคลื่อนภาคการส่งออกให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือผลกระทบจากการยกระดับมาตรการกีดกันทางการค้าที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น ผ่านการเพิ่มความต้องการตลาดโลก เช่น สินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กลุ่มอาหารและเกษตรแปรรูป สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

แนวทางการส่งออกคือ นำสินค้าส่งไปยังตลาดที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดี และการสร้างตลาดใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และอาเซียน รวมทั้งปูทางสู่ประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) มากขึ้น และช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไม่ให้ได้รับผลกระทบจนสร้างผลเสียกลับมายังประเทศ ที่สำคัญคือต้องป้องกันการค้าที่ไม่เป็นธรรม แข่งขันกับธุรกิจรายเล็กในไทยจนไม่อาจแข่งขันได้

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

“สภาพัฒน์” ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีค่อนข้างมาก เพราะยังเป็นกลุ่มที่มีปัญหารอบด้านมาโดยตลอด ทั้งสภาพคล่องในการเข้าถึงสินเชื่อ เนื่องจากคุณภาพหนี้ของกลุ่มเอสเอ็มอีนี้ปรับลดลง ก่อให้เกิดหนี้เสียสูงและรายได้ลดลงชัดเจน จึงต้องเร่งสร้างรายได้ให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี ควบคู่ไปกับการยกระดับศักยภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

*หนี้สูงฉุดรั้ง

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์*

อีกหนึ่งตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยที่สำคัญและเป็นปัญหาที่ยังสะสางไม่ได้ คือ ปัญหาหนี้ครัวเรือน แม้ในที่ผ่านมาภาครัฐจะพยายามหาทางออก มีแนวทาง และมีมาตรการต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือแก้หนี้คนไทย แต่การช่วยเหลือที่ผ่านมายังไม่มีความยั่งยืน ส่วนใหญ่เป็นการช่วยระยะสั้น ให้ยาแค่ชั่วคราว เมื่อยาหมดฤทธิ์ ปัญหาก็กลับมาเหมือนเดิม เพราะการแก้ไขหนี้ต้องควบคู่กับการเพิ่มรายได้ให้ครัวเรือน ได้มีเงินสภาพคล่องดำเนินชีวิตอยู่ต่อไปได้

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

ล่าสุดภาครัฐ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงิน ร่วมกันออกมาตรการ คุณสู้ เราช่วย แบ่งเป็น 2 มาตรการหลัก คือ มาตรการ “จ่าย ปิด จบ” เป็นการช่วยลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้เสียและยอดหนี้ไม่สูง ไม่เกิน 5,000 บาทเพียงจ่ายหนี้คืน 10% ของยอดหนี้ที่ค้าง จะได้รับสิทธิยกเว้นหนี้ที่เหลือให้ทั้งหมด และจะไม่ปรากฏประวัติหนี้เสียที่ถูกระบุไว้ในเครดิตบูโร ตัวอย่างเช่น เหลือยอดหนี้ค้าง 5,000 บาท มาจ่ายแค่ 500 บาท อีก 4,500 บาท ธนาคารจะยกหนี้ให้ทั้งหมด

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

มาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” เป็นการช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อบ้าน รถ และเอสเอ็มอี โดยลดค่างวดเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยลูกหนี้ชำระค่างวดขั้นต่ำที่ 50% ในปีที่ 1, ชำระค่างวดขั้นต่ำ 70% ในปีที่ 2 และชำระค่างวดขั้นต่ำ 90% ของค่างวดเดิม ในปีที่ 3 ซึ่งค่างวดทั้งหมดจะนำไปตัดเงินต้น และหากทำได้ตามเงื่อนไข ดอกเบี้ยที่พักไว้ 3 ปี ธนาคารเจ้าหนี้จะยกเว้นให้ทันที ซึ่งต้องมาติดตามว่าจะช่วยแก้ปัญหาหนี้ที่ค้างคาก่อนจะฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้มากน้อยแค่ไหน

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

ดังนั้น จากความท้าทายรอบด้านที่ต้องเจอไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ ต้องเตรียมการรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจไทย และผู้ประกอบการในประเทศ โดยต้องมาติดตามดูกันว่าภาครัฐ นำโดยรัฐบาลแพทองธาร จะมีแนวทางบริหารเศรษฐกิจไทยในปี 68 อย่างไร เพื่อให้ไม่สะดุดและตกหลุมอากาศจากปัจจัยภายนอกที่ไม่อาจคาดเดาและควบคุมได้ยาก.

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีมะเส็งจับตาปัจจัยรอบด้านรุมเร้าเดลินิวส์

很赞哦!(57)

相关文章

站长推荐